top of page

วิธีวิเคราะห์ 3 มุมมองในโจทย์ ACT Writing

อ่านให้ขาด วิเคราะห์ให้เฉียบ เชื่อมโยงให้แม่น = คะแนนสูง!

หนึ่งในจุดที่ทำให้นักเรียนหลายคนพลาดคะแนน ACT Writing ก็คือ การวิเคราะห์ 3 มุมมอง (perspectives) ที่โจทย์ให้มาแบบ “ผิวเผิน” เกินไป หรือไม่รู้ว่าจะเชื่อมโยงกับมุมมองของตัวเองอย่างไรให้โดนใจคนตรวจ วันนี้เราจะมาลงลึกทีละขั้นตอนว่าวิธีการวิเคราะห์ที่ดีควรทำอย่างไร พร้อมเทคนิคที่ใช้ได้จริงในการเขียน



เทคนิคการวิเคราะห์ 3 มุมมองใน ACT Writing พร้อมตัวอย่างการเขียนวิเคราะห์ perspective อย่างมีเหตุผลและเชื่อมโยงกับความคิดเห็นของผู้เขียน



1️⃣ เข้าใจก่อนว่า “3 มุมมอง” คืออะไร

โจทย์ ACT Writing จะให้หัวข้อมา เช่นเรื่อง “การใช้เทคโนโลยีในที่ทำงาน” แล้วตามมาด้วย 3 มุมมองที่แตกต่างกัน เช่น

  • Perspective 1: เทคโนโลยีทำให้พนักงานขาดทักษะการสื่อสาร

  • Perspective 2: เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

  • Perspective 3: การใช้เทคโนโลยีควรอยู่ในระดับพอดี ไม่มากไปหรือน้อยไป

มุมมองเหล่านี้ไม่ได้มีถูกผิด แต่นักเรียนต้องเลือก “จุดยืนของตัวเอง” และอธิบายอย่างมีเหตุผลว่า เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับแต่ละมุมมองอย่างไร




2️⃣ เทคนิคการอ่านและตีความ 3 มุมมอง

ในการอ่าน 3 perspectives เราแนะนำให้วิเคราะห์ดังนี้:

  • สรุปใจความสำคัญ ของแต่ละมุมมองในประโยคเดียว

  • ดูว่ามีคำเชื่อมสำคัญอะไรบ้าง เช่น however, although, fundamentally — คำเหล่านี้ช่วยให้เข้าใจน้ำหนักของความคิดเห็นได้ชัดเจนขึ้น

  • ตั้งคำถามกับแต่ละมุมมอง เช่น “จริงเสมอไหม?” “ข้อดี/ข้อเสียของมุมมองนี้คืออะไร?” “มีตัวอย่างไหนสนับสนุนหรือขัดแย้งกับมุมมองนี้บ้าง?”



3️⃣ วิธีเชื่อมโยงกับมุมมองของเราเอง

หลังจากเลือกแล้วว่าเราจะ “เห็นด้วย/ไม่เห็นด้วย” กับมุมมองไหน ให้วางแผนการเขียนประมาณนี้:

  • พูดถึงมุมมองที่เราเห็นด้วยก่อนยกตัวอย่างชัด ๆ ที่สนับสนุนมุมมองนั้น เช่น เหตุการณ์จริง, ข่าว, หรือสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน

  • เปรียบเทียบกับอีก 1-2 มุมมองไม่ต้องเขียนถึงครบทั้ง 3 มุมมองเสมอไป แต่การวิเคราะห์เปรียบเทียบให้เห็นจุดแข็งและจุดอ่อนของแต่ละความคิดจะช่วยให้เรียงความมีน้ำหนัก

  • ใส่ “ข้อเสนอแนะ” หรือ “ทางสายกลาง”ถ้าเขียนได้ว่ามีทางเลือกแบบผสมที่ดีกว่า หรือเสนอแง่มุมใหม่ที่ลึกกว่าเดิม คนตรวจจะรู้ทันทีว่าเรา “คิดจริง” ไม่ได้เขียนตามสูตร



4️⃣ โครงสร้างเรียงความที่แนะนำ

  • ย่อหน้า 1 (Introduction)

    • กล่าวถึงหัวข้อและความสำคัญ

    • ระบุจุดยืนของคุณอย่างชัดเจน

  • ย่อหน้า 2 (Support Own View)

    • ขยายความมุมมองของคุณ

    • ยกตัวอย่างชัดเจน

  • ย่อหน้า 3 (Evaluate/Compare with Another Perspective)

    • พูดถึงมุมมองอื่น

    • เปรียบเทียบและแสดงเหตุผลว่าทำไมมุมมองของคุณดีกว่า

  • ย่อหน้า 4 (Optional: Third Perspective or Further Discussion)

    • เสริมข้อมูลหรือพูดถึงมุมมองที่เหลือ

  • ย่อหน้า 5 (Conclusion)

    • สรุปจุดยืนอีกครั้ง

    • ทิ้งท้ายด้วยแนวคิดที่น่าจดจำ



🔎 STEP 1: อ่านโจทย์แล้วจับ “สาระสำคัญ” ของ 3 มุมมองให้ได้ก่อน

ลองดูตัวอย่างโจทย์นี้:


หัวข้อ: “Should schools adopt online learning permanently?”



Perspective 1: Online learning allows students to study at their own pace, increasing academic performance.



Perspective 2: Online learning disconnects students from teachers and peers, weakening their social development.



Perspective 3: A blended model of online and in-person learning creates the most effective education system.



🎯 ตัวอย่างการวิเคราะห์แต่ละมุมมอง:

🔹 Perspective 1 - สนับสนุนเต็มที่: “ข้อดีของมุมมองนี้คือความยืดหยุ่น นักเรียนสามารถจัดการเวลาเองได้ ซึ่งส่งผลดีต่อคนที่มีจังหวะการเรียนรู้ต่างกัน เช่น นักเรียนที่ต้องทำงานพาร์ตไทม์หรือนักกีฬาที่มีตารางซ้อมแน่น การเรียนออนไลน์ทำให้พวกเขาไม่ต้องเสียโอกาสทางการศึกษา”



🔹 Perspective 2 - ไม่เห็นด้วยบางส่วน:


“แม้การเรียนออนไลน์อาจทำให้รู้สึกโดดเดี่ยว แต่ถ้ามีการใช้แพลตฟอร์มแบบอินเตอร์แอคทีฟ เช่น Zoom breakout rooms หรือแอปทำงานกลุ่มออนไลน์ ก็ยังสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์ได้ ต่างจากอดีตที่แค่ดูวิดีโอเฉย ๆ”



🔹 Perspective 3 - จุดยืนของเรา:


“การผสมผสานออนไลน์กับการเจอหน้าเป็นทางเลือกที่สมดุลที่สุด เพราะนักเรียนยังได้ประโยชน์ทั้งสองด้าน เช่น เรียนทฤษฎีออนไลน์ แล้วมาทำโปรเจกต์/แลปในห้องเรียนจริง เพื่อฝึกปฏิสัมพันธ์และลงมือทำจริง”



✍️ เทคนิคเชื่อมโยงมุมมองกับ “ตัวอย่างจริง”

การใส่ตัวอย่างแบบจับต้องได้ จะทำให้บทความมีน้ำหนักขึ้นมาก เช่น



✅ ตัวอย่างดี:


“เมื่อช่วงโควิด-19 โรงเรียนทั่วโลกจำเป็นต้องใช้ระบบเรียนออนไลน์เต็มรูปแบบ แต่ผลการเรียนในหลายโรงเรียนกลับตกลง เนื่องจากขาดระบบประเมินและติดตามที่เหมาะสม ทำให้เกิดการถอยหลังทางการศึกษาของนักเรียนจำนวนมาก”



❌ ตัวอย่างที่ควรหลีกเลี่ยง:


“การเรียนออนไลน์อาจดี หรือไม่ดี ขึ้นอยู่กับตัวนักเรียน”→ ประโยคนี้คลุมเครือเกินไป และไม่ช่วยแสดงทักษะวิเคราะห์



💡 ตัวอย่างอีกหนึ่งเซต: (หัวข้อ “Should Artificial Intelligence replace human workers?”)



Perspective 1: AI should replace workers in repetitive jobs to improve efficiency.


Perspective 2: Replacing humans with AI causes mass unemployment and social instability.


Perspective 3: AI and humans should collaborate, not compete.



🔹 วิเคราะห์ Perspective 1:


“เหมาะกับงานที่ต้องทำซ้ำ ๆ เช่น ตรวจคุณภาพสินค้าในโรงงาน ซึ่งใช้ AI ตรวจจับข้อผิดพลาดได้แม่นยำและเร็วกว่าแรงงานคน”



🔹 วิเคราะห์ Perspective 2


“เห็นด้วยบางส่วน โดยเฉพาะในประเทศที่ไม่มีระบบสวัสดิการรองรับ คนตกงานจะไม่มีทางเลือก เช่น กรณีแรงงานในอินเดียที่ถูกแทนที่ด้วยเครื่องจักรในสายการผลิต”



🔹 มุมมองของเรา (Perspective 3)


“มนุษย์และ AI ควรทำงานร่วมกัน เช่น ในโรงพยาบาล AI ช่วยวิเคราะห์ภาพ X-ray แต่แพทย์เป็นผู้ตัดสินใจขั้นสุดท้าย ซึ่งทั้งสองเสริมกันได้ดี”



สรุป: เขียนดี = วิเคราะห์ได้ + เชื่อมโยงได้ + มีตัวอย่างชัด

การวิเคราะห์ 3 มุมมองไม่ใช่แค่ “พูดถึง” แต่ต้อง “ชั่งน้ำหนัก” และ “ขยายความด้วยตัวอย่างหรือเหตุผล” ที่ทำให้คนอ่านเห็นว่าคุณคิดจริง วิเคราะห์จริง ไม่ใช่แค่เขียนวนไปมา




✨ เคล็ดลับจากครู KPH:

“ไม่ต้องเขียนให้ถูกใจทุกคน แต่ต้องเขียนให้คนตรวจเห็นว่าคุณ คิดเป็น เห็นลึก และวิเคราะห์ได้ นี่แหละหัวใจของการทำคะแนน ACT Writing ให้เต็ม!” #ACT #ACTWriting

 
 
 

Comments


Follow Us
  • Facebook Basic Square
  • Twitter Basic Square
  • Google+ Basic Square
  • Line
  • Instagram
  • Facebook
  • Twitter

CONTACT US 

☎️ : 064-954-7733

Line Official: @Krupimhouse

Facebook : NEW SAT Krupimhouse

Instagram : newsat_kph

X : @KRUPIMHOUSE_

KPH__LOGO_OFFICIAL2.png
bottom of page