3 easy steps ทำโจทย์ SAT MATH การันตี ทำถูกทุกข้อ!!
Updated: Oct 17, 2019
เคยมั้ย อ่านโจทย์ SAT MATH เสร็จ...งง! อ่านใหม่.....งงอีก! มันต้องเริ่มทำยังไง มันต้องเริ่มที่ตรงไหน แล้วนี่มันอยู่เรื่องอะไรเนี่ย ต้องเอาสูตรอะไรมาใช้ แล้วจะได้คะตอบที่โจทย์ถามหาจากไหน โอ๊ย...งงไปหมดด!!!
ยอมรับมาซะดีๆ ว่านี่คือปัญหาของน้องหลายๆคน...จากประสบการณ์ของพี่ฟ้า ที่สอน SAT MATH มานาน เห็นปัญหาทุกรูปแบบของน้องๆ ในการทำโจทย์ SAT MATH หลักๆเลยคือน้องอ่านโจทย์แล้วไม่รู้ว่าต้องทำยังไง ต้องเริ่มที่ไหน เพราะฉะนั้น วันนี้ พี่ฟ้าจะมาบอกเคล็ดลับในการทำโจทย์แต่ละข้อ ที่ทำให้พี่ฟ้า ได้คะแนน SAT MATH 800 เต็มทุกครั้ง ตั้งแต่เริ่มต้นอ่านโจทย์ แปลโจทย์ ตีโจทย์ และ แก้โจทย์ จนจบได้คำตอบออกมา กับ 3 easy steps ตามนี้เลย! การันตี ว่าใช้ได้กับโจทย์ทุกข้อ ทุกสไตล์!
1. แปลโจทย์
เริ่มต้นที่การแปลโจทย์ แน่นอนว่า การทำโจทย์ SAT MATH เราไม่ได้ต้องแปลให้ออกทุกตัว! ย้ำ! ไม่ต้องแปลออกทุกตัว! เพียงแค่ท่องศัพท์ Basic คลิ๊กที่นี่ แล้วอ่านโจทย์คร่าวๆ ว่า
ตัวละครข้อนั้นมีกี่ตัว?
ใครทำอะไร?
ทำอย่างละเท่าไหร่?
หน่วยอะไร?
เงื่อนไขโจทย์มีอะไรบ้าง?
แล้วค่อยๆ เขียนสิ่งที่เรารู้ออกมาทดให้เป็นระบบ! การทดที่เป็นระบบ จะช่วยให้น้องๆ คิดเป็นเหตุเป็นผล ขึ้นอีกเยอะมากๆ
โจทย์ SAT MATH สามารถ design ออกมา ได้ตั้งแต่ง่ายมากจนถึงยากมาก story จะสั้นจะยาว ได้หมด แต่สุดท้ายแล้ว concept หรือ สูตรที่ใช้ คือสูตรเดิมๆ เพราะฉะนั้น เวลาที่โจทย์ออกแบบมาใช้ศัพท์ยากๆ ไม่ต้องกังวล หากเราไม่รู้ว่ามันคืออะไร ข้ามไป เหลือไว้แต่สิ่งที่สำคัญจริงๆ พอ
2. ตีโจทย์
เทคนิคในการตีโจทย์ SAT Math ที่พี่ฟ้าย้ำเสมอในห้อง ไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย เพียงแค่น้องต้องสังเกตุเท่านั้น! อ่านโจทย์แบบกวาดตา skim ลงไปที่บรรทัดสุดท้ายแล้วหาว่า....
โจทย์ถามหาอะไร?
นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะจะเป็นตัวกำหนดจุดประสงค์ของข้อนี้
.
สิ่งที่โจทย์ถาม คือสิ่งสำคัญที่สุด เพราะจะเป็นตัวกำหนดจุดประสงค์ของข้อนี้
.
เช่น โจทย์ต้องการหาพื้นที่สี่เหลี่ยม
จุดประสงค์คือ จะหาพื้นที่! ต้องทำยังไงก็ได้ให้ได้พื้นที่มา!
แล้วเราก็มาคิดต่อว่า....
ต้องรู้อะไรถึงจะได้ในสิ่งที่โจทย์ถาม?
ในขั้นตอนนี้ น้อง "ต้องวิเคราะห์ออกมาให้ได้ว่า โจทย์ข้อนี้ อยู่ในเรื่องอะไร หัวข้ออะไร แล้วต้องใช้สูตรใดมาแก้"
.
"ต้องวิเคราะห์ออกมาให้ได้ว่า โจทย์ข้อนี้ อยู่ในเรื่องอะไร หัวข้ออะไร แล้วต้องใช้สูตรใดมาแก้"
.
อย่างเช่น โจทย์ต้องการหาพื้นที่ สี่เหลี่ยม
ออ..อยู่ในเรื่องพื้นที่สีี้เหลี่ยม!
สูตรคือ กว้างxยาว!
อ๋อออ....ต้องรู้ความยาวกับความกว้างก่อนไงถึงจะหาพื้นที่ได้!
แล้วเรารู้สิ่งนั้นรึยัง?
อยากจะรู้พื้นที่สี่เหลี่ยม
ต้องรู้ความยาวและความกว้าง...
แต่...รู้ความยาว ความกว้างรึยังอ่ะ?
ถ้าโจทย์บอกมาแล้วก็แทนค่าไปหาคำตอบไปเลยยย
แต่! แล้วถ้าเกิด....โจทย์ไม่ได้บอกขึ้นมาละ.....
ถ้ายังไม่รู้ ไปหาสิ่งที่ต้องการมา?
ถ้ายังไม่รู้ความกว้าง ความยาว ก็ต้องไปหามาก่อน!
หาจากไหน?
ก็หาจากข้อมูลอื่นๆ ที่โจทย์ให้มาไงงง!!
ย้อนกลับไปอ่านตั้งแต่บรรทัดแรกใหม่ว่าโจทย์ให้อะไรเรามาบ้าง
ละจะเอามาหา กว้าง กับ ยาวที่หายไป ได้อย่างไร
พอได้กว้างกับยาวมาแล้ว ก็แทนค่า หาพื้นที่ได้คำตอบออกมาเลย
ซึ่งการแก้โจทย์ Math อย่าลืม เรามี ตัวแปร x ช่วยเราได้เสมอ! อะไรที่โจทย์ถามหา แล้วเรายังไม่รู้ว่ามันคืออะไร ให้มันเป็น x ไว้ก่อน!
ไม่ใช่แค่เรื่อง พื้นที่เท่านั้น ที่ใช้เทคนิคนี้เวิค!! บอกเลยว่า ขั้นตอนการตีโจทย์แบบนี้ ใช้ได้กับทุกข้อ!
3. แก้โจทย์
การแก้โจทย์เลข เป็นสิ่งไม่ตายตัว โจทย์ 1 ข้อ ไม่ได้แก้ได้แค่วิธีเดียว แต่ละคนคิดไม่เหมือนกัน ขั้นตอนไม่เหมือนกัน แต่คำตอบออกมาเหมือนกัน ดังนั้น หน้าที่ของเราคือ เลือกวิธีที่เรามั่นใจที่สุด และทำออกมาได้เร็วที่สุด
.
.
ตั้งสมการเสร็จ take a break ซัก 3 วินาที ลองดูซิว่า จะเลือกทำวิธีไหน ย้ายข้างดีมั้ย? กระจายเข้าไปในวงเล็บก่อนดีมั้ย? หรือคูณไขว้ก่อนดี? หรือตัดเป็นเศษส่วนอย่างต่ำก็ง่ายดีนะ?
4.ตรวจเช็คความรอบคอบก่อนจะตอบอีกครั้งหนึ่ง
อ่านคำถามอีกสักครั้ง
เช็คคำตอบอีกซักที
ดูให้ดีๆ อีกซักหน่อย
กูถูกข้อหรือยัง?
อาจจะดูเป็นเรื่องตลก แต่เชื่อสิ ปัญหานี้ทุกคนเจอ เพราะในห้องสอบ เวลาจะเป็นตัวกดดัน ทำให้เราพลาดอะไร ต่อมิอะไรเสมอ จุดเล็กที่ไม่เคยพลาด ก็จะมาพลาดในห้องสอบเนี่ยแหละ
เพราะฉะนั้น ขั้นตอนสุดท้าย "Check!"
อย่าลืม เรามีตัวช่วย เสมอ หากใครคิดเลขไม่เก่ง ถือเครื่องคิดเลขไว้ให้มั่น และกดรัวๆ
ดูเทคนิคกดเครื่องคิดเลขได้ที่นี่
ทั้งหมดนี้คือ เทคนิค ที่พี่ฟ้า คอนเฟิร์ม ว่าใช้ได้กับโจทย์ SAT MATH ทุกข้อ การันตี จากคะแนน SAT MATH ของพี่ฟ้าเอง และ คะแนนของน้องๆ ที่พี่ฟ้าสอนทุกคน!!
ได้ยินอย่างนี้แล้ว รีบนำไปฝึกใช้กันดูนะจ๊ะ!!
