เรียน ACT/ติว ACT English : จะเจออะไรในข้อสอบ ACT English บ้าง?
กำลังคิดจะเรียน ACT/ติว ACT English กันอยู่ใช่มั้ย อยากรู้ใช่มั้ยว่าข้อสอบ ACT พาร์ท English จะต้องเจอกับอะไรบ้าง? Blog นี้พี่ๆ KPH รวบรวมสิ่งที่น้องๆ จะต้องเจอในข้อสอบพาร์ทนี้ มาให้หมดแล้ว

รูปแบบข้อสอบ ACT English
ข้อสอบ ACT English เป็น Section แรก จากทั้งหมด 5 sections ที่จะเจอในข้อสอบ
ประกอบไปด้วย คำถามทั้งหมด 75 ข้อ ใช้เวลาสอบ 45 นาที ตกข้อละประมาณ 36 วินาทีเท่านั้น ฉะนั้น น้องๆ จะต้องทำข้อสอบอย่างรวดเร็ว ไม่งั้นจะทำไม่ทัน เวลาหมดก่อนแน่นอน
ข้อสอบ ACT English ประกอบไปด้วย 5 passages แต่ละ passage จะตามมาด้วยคำถาม Multiple-choice บางคำถามจะเจาะจงที่ประโยคใดประโยคหนึ่ง บางคำถามก็จะถามถึง เนื้อหาทั้ง Passage เลย ซึ่งพี่จะแบ่งประเภทคำถามน้องๆดู ด้านล่างนี้เลย
ACT English มีคำถามกี่ประเภท?
คำถามที่น้องๆ จะเจอในข้อสอบ ACT English จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหม่ๆ คือ Usage and Mechanics และ Rhetorical Skills.
Usage Mechanics จะเกี่ยวกับการใช้ Grammar และ Punctuation ให้เหมาะสม จะคล้ายๆกับการแก้โจทย์ Error ในขณะที่ Rhetorical Skills จะเน้นที่ความเข้าใจ เนื้อหา และทดสอบความสามารถในการจับใจความ การเรียบเรียงเนื้อหาให้ปะติดปะต่อ
ข้อสอบ ACT English ไม่มีคำถามเกี่ยวกับ การสะกดคำ และ คำศัพท์ (Spelling and Vocabulary) น้องๆ สามารถเข้าใจคำศัพท์ และ ตอบคำถามได้จากการอ่านเนื้อหาใน passage
หลังจากที่เข้าใจภาพกว้างๆกันแล้ว ตอนนี้มาลงรายละเอีนดกันอีกซักนิดว่าแต่ละคำถามแต่ละประเภท มีคำถามประเภท ย่อยๆ รายละเอียดย่อยๆ อะไรบ้าง
Usage/Mechanics
Punctuation (10%-15%)
โจทย์สไตล์นี้ จะทดสอบการใช้เครื่องหมาย Punctuation เช่น comma, colon, semicolon, dash, hyphen, apostrophe และอื่นๆ สไตล์นี้จะเน้นการใช้เครื่องหมายเหล่านี้ให้เหมาะสม สอดคล้องกับเนื้อหาใน passage โจทย์จะทดสอบว่า น้องๆ สามารถวางเครื่องหมายเหล่านี้ ให้ถูกที่ โดยที่ทำให้เนื้อหาของ passage ชัดเจน กระชับมากที่สุดได้หรือไม่
Tricks : ทำความเข้าใจหน้าที่ การใช้งานของ Punctuation แต่ละประเภทให้เข้าใจ ฝึกอ่าน Reading passage เพื่อดูการใช้งานจริง ของ Punctuation แต่ละตัว เพราะปัญหาที่พี่ เจอบ่อยๆ คือ น้องๆ ท่อง theory ได้เป๊ะมาก รู้ว่าต้องใช้ยังไง แต่พอเจอโจทย์จริงกับใช้ไม่เป็น ดูไม่ออกและพลิกแพลงไม่ได้
เมื่อน้องๆ อ่านเยอะ น้องจะเห็นการใช้งานจริง และจะเห็นว่า บางที Punctuation บางตัว ค่อนข้าง flexible สามารถใช้ตัวอื่นมาแทนได้ เพราะฉะนั้น ต้องเข้าใจข้อยกเว้นการใช้เครื่องหมายแต่ละตัวด้วย
Grammar and Usage (15%-20%)
โจทย์สไตล์นี้ จะทดสอบการใช้กฏ Grammar ต่างๆ เช่น Subject-Verb Agreement, Tense, และอื่นๆ
Trick : น้องๆต้องทำความเข้าใจกฎ Grammar ที่สำคัญๆ ทุกเรื่อง (ซึ่งพี่จะขอแยกหัวข้อ Grammar ไปอีก Blog นึง) เมื่อเจอโจทย์ประเภทนี้ ต้องบอกได้ว่า Choice ข้อไหน ถูก หรือ Choice ข้อไหนผิด น้องๆ ควรจะอธิบายได้ว่าทำไม Choice ข้อนี้ถึงถูก ทำไม Choice ข้อนั้นผิด เพราะปัญหาที่พี่ๆเจอมาคือ น้องๆใช้ Sense ในการทำโจทย์ เมื่อน้องๆ ใช้ Sense น้องจะไม่เข้าใจว่ามันถูกเพราะอะไร ผิดเพราะอะไร ทำให้คะแนนไม่คงที่ เดี๋ยวผิด เดี๋ยวถูกอยู่นั่นแหละ
Sentence Structure (20%-25%)
โจทย์สไตล์นี้จะทดสอบ ความสามารถในการหาความสัมพันธ์ของ Clause และ Modifier (ประโยคหลักและส่วนขยาย) และการเปลี่ยนโครงสร้างประโยค เช่น โจทย์อาจจะให้น้องๆ เลือก conjunction คำเชื่อม ที่ถผุดต้องเพื่อเปลี่ยนจาก single sentence ให้กลายเป็น compound sentence
Trick : เวลาน้องๆ ทำโจทย์ประเภทนี้ พยายามอย่า focus จุดเล็กๆให้มองแบบภาพรวม มองหลายๆประโยคเข้าด้วยกัน และหาChoice ข้อที่ทำให้ passage โดยรวมดู flow เป็นธรรมชาติที่สุด อ่านแล้วไม่สะดุด
Rhetorical Skills
คิดซะว่าคำถามประเภทนี้คือให้น้องๆ มอง ภาพใหญ่ๆ มองโดยรวม จะไม่ได้มานั่ง focus ทีละประโยค สองประโยคเหมือนคำถามปรดเทพ Usage และ Mechanics แล้ว ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทย่อยๆ ดังนี้
Strategy (15%-20%) คำถามประเภทนี้จะทดสอบในเรื่องของ Relevance ความเกี่ยวข้องของเนื้อหา น้องๆต้องหาผลกระทบจากการเพิ่ม หรือ ตัดประโยคใดประโยคหนึ่งออกไป โจทย์จะถามว่า ควรเพิ่ม หรือ ควรตัด ประโยคนี้หรือไม่ ถ้าควรเพิ่ม เพราะอะไร ถ้าควรตัด เพราะอะไร ส่วนใหญ่แล้ว เหตุผลหลักๆที่เพิ่มเพราะทำให้ passage เห็นภาพมากขึ้น เหตุผลหลักๆที่ตัดออกเพราะมันไม่เกี่ยวกับเนื้อหาภาพรวม ทำให้สับสน ทำให้ focus ของ passage มัน blur ไป
Organization (10%-15%) คำถามประเภทนี้ทดสอบความสามารถในการ Organize idea โจทย์จะถามเกี่ยวกับ การเปิดเนื้อเรื่อง การเปลี่ยนจาก focus หนึ่ง ไปอีก focus หนึ่ง การเชื่อม paragraph และ การปิดเนื้อเรื่อง
Style (15%-20%) คำถามประเภทนี้ทดสอบ ความสามารถในการเลือกใช้คำ ที่สามารถบอกถึง ความรู้สึกของผู้เขียน Mood และ Tone ต่างๆ การใช้คำศัพท์ที่เหมาะสม ไม่เยิ่นเย้อ
เป็นยังไงกันบ้างหลังจากที่ ได้อ่านสิ่งที่น้องๆ จะต้องเจอในข้อสอบ ACT English น่าจะเห็นภาพขึ้นไม่มากก็น้อย พี่ๆ KPH หวังว่า การเรียน ACT/ติว ACT English จะเห็นภาพมากขึ้น วางแผนเตรียมตัวได้ง่ายขึ้น ส่วนน้องๆ คนไหนที่ยังรู้สึกว่าการเรียน ACT/ติว ACT English ยังเป็นเรื่องที่ยากอยู่ละก็ รีบติดต่อ KPH มาได้เลย พี่ๆพร้อมจะช่วยให้น้องมั่นใจขึ้น ก่อนลงสอบครั้งถัดไปแน่นอนค่า
Call : 064-954-7733
Line : @krupimhouse