top of page

College Admission 101 : Extracurricular Activities

Updated: Feb 18

สำหรับใครที่อยากเรียนต่ออเมริกา และกำลังวางแผนจะสมัครยื่นเข้า TOP US University/IVY League พี่รู้ว่าน้องๆ อยากสร้างความประทับใจให้กับ Admission committee ด้วย profile ที่สวยหรู เกรดเฉลี่ยนที่ดี คะแนนสอบ Standardized Test (Digital SAT หรือ ACT) ที่สูง และ เลือกวิชาเรียนที่สร้างความ strong ให้กับ transcript อย่างเช่นการสอบ Advanced Plaement (AP) Exam แต่ความสำเร็จด้านวิชาการเป็นเพียงตัวต้นด้านหนึ่งของน้องเท่านั้น ไม่ใช่ “Full picture” ไม่ได้เป็นตัวบอกทั้งหมดว่าจริงๆ แล้ว น้องคือใคร “Who you really are?”


ใช่! มหาวิทยาลัยอยากได้เด็กเก่งๆ แต่! นอกเหนือจากการ “เรียนเก่ง” สถาบันต้องการนักเรียนที่ เก่งในทุกๆ ด้าน มากกว่า! This is where Extracurriculars come in! Admission officers ต้องการสร้างห้องเรียนที่ประกอบไปด้วยนักเรียนจากหลายหลาย Background และมีความสนใจของต่างๆ กัน ซึ่งกรรมการจะพิจารณาจาก กิจกรรมที่น้องๆ ทำ เพื่อทำความเข้าใจ ว่าตัวตนของน้องเป็นอย่างไร



 

How do college admissions officers view extracurricular activities within the application?

ปัจจัย สำคัญสูงสุด 3 ประการ ของการยื่นสมัครเข้า TOP US University ประกอบไปด้วย

  1. เกรด / GPA

  2. คะแนน Standardized Test ( Digital SAT หรือ ACT )

  3. ความ Strong ของ transcript



3 สิ่งนี้รวมกัน จะเป็นตัวสื่อสารให้กับ admission officers ว่าน้อง มีความพร้อม และ ศักยภาพจะเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น มีความต้องการที่จะท้าทายตัวเองมากน้อยแค่ไหน อย่างไรก็ตาม 3 สิ่งนี้ ไม่ได้บอกถึงตัวตน บุคลิค หรือความสนใจอื่นๆ นอกเหนือไปจากด้านวิชาการ มากเท่าไหร่นัก ซึ่งนี่แหละ คือ สิ่งที่ admission officers จะตามหา บน Extracurriculars


การจัดสรรเวลายามว่าง ให้กับ Extracurriculars นอกห้องเรียน เป็นการบอกให้ admission officers รู้อ้อมๆ ว่าเราเป็นคนอย่างไร ให้คุณค่า ความสำคัญกับอะไรมากที่สุด Extracurriculars รวมไปถึงอะไรบ้าง? อะไรก็ตามที่ไม่เกี่ยวข้องกับด้านวิชการ เช่น กีฬา ดนตรี การแสดง ศิลปะ การอาสาสมัคร การเข้าร่วมชมรม ทั้งในโรงเรียน และ นอกโรงเรียน การทำงาน part-time หรือ ฝึกงาน ก็ได้เช่นกัน

 

Consistency is the key! เพราะกิจกรรมบางอย่าง ไม่ใช่การทำครั้งเดียวแล้วจบ การเข้าร่วมเพื่อแค่ให้ได้ profile มาใส่ใน Extracurriculars แบบนี้ admission officers ดูออกไม่ยาก หลายๆ กิจกรรมต้องใช้ระยะเวลา เพื่อเรียนรู้ให้มากพอ จน develop ขึ้นมาเป็น skill ต้องใช้เวลานานจนกว่าจะเรียนรู้และตกตะกอนออกมาเป็นบทเรียนสำคัญให้กับชีวิต ยกตัวอย่างเช่น การเข้าร่วม class เรียนดนตรีสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เป็นระยะเวลา 3 ปี หรือ การทำงาน part-time ควบคู่ไปกับการเรียนในโรงเรียน ตลอด semester กิจกรรมเหล่านี้ จะแสดงให้เห็นถึง “commitment” ที่น้องมีต่อความสนใจเหล่านั้น ยิ่งน้อง commit กับกิจกรรมนั้นมากเท่าไหร่ ยิ่งแสดงให้เห็นถึงตัวตัน บุคลิกและความสนใจของน้องมากขึ้น

 

Leadership is important! ตำแหน่งผู้นำ แสดงให้เห็นว่า น้องมีความรับผิดชอบตลอดการทำกิจกรรม มันแสดงถึง maturity (ความเป็นผู้ใหญ่) และ accountability (ความน่าเชื่อถือ) และคุณสมบัติอะไรอีกหลายๆ อย่างในตัวน้อง

 

What Extracurriculars do colleges view most favorably?

กิจกรรมอะไร ที่มหาวิทยาลัยอยากให้ทำมากที่สุด? พอรู้ว่าต้องทำกิจกรรม น้องๆ และผู้ปกครอง คงตั้งคำถามกันใหญ่ว่า แล้วต้องทำอะไร ถึงจะมีโอกาสสำเร็จสูงที่สุด “Ideal” activities คืออะไร? ลองคิดว่า ถ้าผู้สมัครทุกคน ทำกิจกรรมมาเหมือนกันหมด คงไม่มีอะไรน่าเบื่อไปกว่านี้อีกแล้วใช่มั้ย อีกอย่างคือ ถ้าน้อง force ตัวเองให้ทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ มันฝืน มันดูออก ระดับการให้ความสำคัญน้อยลง commitment ก็น้อยลง คุณภาพของกิจกรรมที่ทำออกมาก็น้อยลงไปด้วย ตามมาด้วย การเขียน College Essay ที่ไม่ real ไม่ convince  พูดง่ายๆ คือ application น้องจะดูไม่เป็นตัวของตัวเองเลย ดังนั้น กิจกรรมที่ มหาวิทยาลัยชอบที่สุด คือ กิจกรรมที่น้องชอบที่สุด นั่นแหละ


ตามหา activities ที่ใช่ และ commit กับมัน สร้างในสิ่งที่มีความหมายกับตัวเอง ให้เหมือนกับว่า  การสมัครเข้า TOP US university ครั้งนี้ application ของน้องคือผลงานหรือเรื่องราวชิ้นเอก ที่ไม่ใช่เพียงการเติมข้อมูลลงในช่องว่างให้เต็ม Extracurriculars ของน้อง อาจเริ่มต้นจากโรงเรียน อาจจะเริ่มจาก project เล็กๆ ที่โรงเรียนสั่งให้ทำ แล้วมีความสนใจ อยากจะ explore ให้มากกว่าเดิม นำไปสู่การค้นหา เรียนรู้ คิดค้น ฝึกฝนนอกห้องเรียนให้มากขึ้น กลายเป็น Long-term commitment


การเล่าเริ่องว่า “From obligated to excited / จากถูกบังคับให้ทำ กลายเป็นสนใจและอยากทำ” ลงบน essay จะเป็นการเล่าที่น่าสนใจไม่น้อยเลย


ดังนั้น คำตอบของคำถามที่ว่า กิจกรรมอะไรที่ admission officers ชอบที่สุด ก็คือ กิจกรรมที่เป็น YOU มากที่สุดนั่นเอง

 

How to find the right Extracurricular Activities?

กิจกรรมที่เป็น YOU มากที่สุด คืออะไร? คำถามนี้ เหมือนจะง่าย แต่ก็ไม่ง่ายเลย เพราะไม่ใช่ทุกคนที่รู้ว่าตัวเองชอบทำอะไร

ดังนั้น พี่ๆ KPH จะมาช่วยน้องๆ หากิจกรรมที่ใช่ ผ่าน 3 step นี้เลย


Know your why : อันดับแรก ก่อนเลยก็คือ ก่อนจะเริ่มทำ กิจกรรม อะไรก็ตาม ตอบคำถามนี้ให้ได้ก่อน ว่าเราทำทำไม เพราะอะไรถึงเลือกทำกิจกรรมนี้ understand your motivation! ตอบคำถามเหล่านี้ให้ได้

  • เรามี passion หรือความสนใจด้านไหน เป็นพิเศษ

  • เรามีความเชื่ออะไร

  • เราจะช่วยสังคม สร้างผลกระทบในทางบวกอย่างไร


Develop your how : อันดับสอง คือ หาวิธีการที่จะทำตาม passion ความเชื่อของตัวเองให้ได้ ยกตัวอย่างเช่น

  • Research Opportunities: หาข้อมูล local and online platforms ที่เปิดโอกาสให้ทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ passion ของตัวเอง

  • Network: สร้าง connection กับ professionals, mentors, or organizations เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับด้านที่สนใจ

  • Skill Development: หา skill ที่ต้องการ และเรียนรู้ พัฒนา skill เพิ่มเติม


Create your what : อันดับสุดท้าย ลงมือสร้างผลงาน

  • Active Participation: เข้าร่วม activities ที่เราเลือก. รับบทผู้นำ เมื่อมีโอกาส

  • Projects and Initiatives: สร้าง คิดค้น projects ที่แสดง your passion and skills.

  • Quantifiable Impact: เมื่อมีโอกาส ผลกระทบเชิงบวกของกิจกรรมที่เราทำ – ไม่ว่าจะเป็นในรูปของตัวเลข รีวิว หรืออื่นๆ


Admission Officers ตามหานักเรียนที่สนใจในการมีส่วนร่วมสร้างความแตกต่าง จำไว้ว่า Authencity is a key จงเลือกกิจกรรมที่น้องสนใจจริงๆ และให้ความหลงไหลของน้อง shine บน application

 

How to Build Your Common Application Activities List

หลังจากทำกิจกรรมมามากมาย ตอนนี้ มาดูกันว่า เมื่อถึงเวลาต้องสมัครเข้า TOP US University ของจริง เราจะ showcase กิจกรรมของตัวเองอย่างไร บน common application


สถาบันส่วนใหญ่ ใช้ Common Application ซึ่งเป็น platform เอาไว้สำหรับการสมัครเข้า US College/University โดยเฉพาะ โดย application นี้ มีไว้ให้น้องๆ กรอกข้อมูล และยื่นเอกสารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเกรด คะแนน Standardized test, College Essay รวมไปถึง Activities List ด้วยเช่นกัน


Activities List เปิดโอกาสให้น้องๆ list กิจกรรมลงไป เป็นการเล่าเรื่องของตัวเอง ผ่านการทำกิจกรรมต่างๆ ให้ admission officers ได้รู้จักตัวตนของน้องเพิ่มขึ้นอีกหรึ่งระดับ อย่างไรก็ตาม พื้นที่ในการเล่าเรื่องมีจำกัด ดังนั้นต้องวางแผนการสื่อสารตรงนี้ให้ดี จะใส่อะไรก่อนหลัง จะอธิบายอย่างไร ให้จำนวนตัวอักษรที่มีจำกัด สื่อสารตัวตนของเราออกไปให้ได้มากที่สุด พี่ๆ KPH รวมรวบเทคนิค การสร้าง Acitivities List มาให้เรียบร้อยแล้ว


จัดเต็ม 10 Activities!

Common Application อนุญาตให้น้องใส่ Activities List ทั้งหมด 10 Activities ด้วยกัน ดังนั้น พี่ๆ KPH แนะนำว่า ประโยชน์จากพื้นที่ตรงนี้ให้เต็มที่! มีเท่าไหร่ ใส่ให้หมด!

 

จัด activities เป็น category

จัดกิจกรรมให้เป็นประเภทๆ ซึ่ง Common Application แบ่งประเภทกิจกรรมมาให้น้องได้เลือกกันดังนี้ มีทั้ง Academics, Art, Athletics, Career, Community Service, Computer/Technology, Cultural, Dance, Debate/Speech, Environmental, Family Responsibilities, Foreign Exchange, Journalism, ROTC, LGBT, Music, Religious, Research, Robotics, School Spirit, Science/Math, Student Government, Theatre/Drama, Work Experience and ‘Other’.

 

Candidate ทุกคน มีแนวที่สนใจเป็นของตัวเองอยู่แล้ว จัดประเภทของกิจกรรมที่เองทำมาให้ดี present สื่อความเป็นตัวเองออกมาให้ได้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม หากน้องมีกิจกรรมอื่น ที่ไม่ได้จัดอยู่ในประเภทที่ Common Application ให้มา น้อง ๆ สามารถเลือก other ได้เลย

 

ตัวอักษรทุกตัวมีความหมาย

Common Application มี list กิจกรรมให้มากถึง 10 กิจกรรม ใช้พื้นที่เหล่านั้นให้คุ้ม อย่างไรก็ตาม แต่ละกิจกรรมน้องๆ มีโอกาสอธิบายเพียง 150 characters ถือว่าน้อยเลยแหละ ดังนั้น เรียบเรียงให้ดี 150 characters นี้ จะอธิบายอย่างไร ถึงจะสื่อสารความเป็นตัวเองออกมาให้ได้มากที่สุด

 

จัดลำดับความสำคัญ

กิจกรรมมีเยอะ แต่เอามาเรียงลำดับไม่ถูก มันก็จะ fail นิดนึง ลำดับความสำคัญ จากกิจกรรมที่เรา passionate มากที่สุด ลงไปน้อยสุด หรือ เลือกชิ้นงานที่ เกี่ยวข้องกับ program ที่เราอยากเข้าขึ้นมาก่อน ยกตัวอยางเช่น อยากเรียน Computer Science แต่เอากิจกรรมด้านดนตรีขึ้นก่อน มันก็ไม่ผิด แต่มันก็จะแปลกนิดนึง แบบว่าไม่ค่อยเกี่ยวข้องกัน ถ้าเป็นไปได้ เอากิจกรรมที่เกี่ยวกับด้าน Computer Science ขึ้นก่อน แล้วค่อยเอาด้านดนตรี มาทีหลัง แบบนี้เป็นต้น หรือ หากน้องได้รับรางวัล ระดับประเทศ หรือ ระดับ international มาละก็ เอารางวัลเหล่านั้น ขึ้นก่อนได้เลย!

 

Activities คือ your REAL passion

ย้ำกันอีกครั้ง ว่า Activities List ไม่ใช่แค่การ ประโคมเอารางวัล ผลงาน ความสำเร็จ ยัดข้อมูลลงไปในช่องว่างให้เต็ม แต่นี่คือการเล่าเรื่องราวของตัวเองผ่าน การใส่ข้อมูลทั้งหมด 10 ช่อง 10 กิจกรรม ดังนั้น แต่ละกิจกรรมควรจะสะท้อนให้เห็นว่าตัวตนที่แท้จริงของน้องคืออะไร น้องมี passion หรือ ให้คุณค่าความสำคัญกับอะไรมากที่สุด เป็นตัวแสดงให้เห็นว่า จากประสบการณ์ที่น้องมี น้องจะเอาคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองอะไรมาให้กับสถาบัน What will you bring to the campus?


Admission Officers ต้องการ เติมเต็มสถาบันไปด้วย นักเรียนที่หลากหลาย จากทุก Background มีความสนใจ และมี ambitions ที่ต่างกัน ดังนั้น “BE YOURSELF” และ make sure ว่า Activities List ที่เลือกมา ทำให้ application ของน้อง shine! 

 

สรุปสิ่งสำคัญในการสร้าง Activities List บน Common Application คือ Be yourself จัดกลุ่มให้ดี เรียงลำดับความสำคัญ และ ใช้ทุกตัวอักษร ทุกช่องว่าง ให้คุ้ม!

 

หลังจากอ่าน Blog นี้แล้ว พี่ๆ KPH หวังว่าน้องจะเห็นภาพว่า Extracurriculars มีความสำคัญมากน้อยขนาดไหน ในการเรียนต่ออมเริกา โดยเฉพาะ TOP US University/IVY League และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า Blog นี้จะช่วยให้น้องวางแผนได้ดียิ่งขึ้น แต่ต้องไม่ลืมที่จะ Balance ระหว่าง การทำ เกรด คะแนน SAT/ACT ให้ดี ทำ transcript ใก้ strong ด้วยคะแนน AP และ กิจกรรมให้โดดเด่น ควบคู่กันไป


ดูรายละเอียดคอร์ส SAT เพิ่มเติมได้ที่ page นี้

ดูรายละเอียดคอร์ส ACT เพิ่มเติมได้ที่ page นี้

ดูรายละเอียดคอร์ส AP เพิ่มเติมได้ที่ page นี้


ปรึกษารับคำแนะนำเพิ่มเติมได้ที่

Call : 064-954-7733

Line ID : @krupimhouse



Follow Us
  • Facebook Basic Square
  • Twitter Basic Square
  • Google+ Basic Square
  • Line
  • Instagram
  • Facebook
  • Twitter
bottom of page